การเลือกคาราโอเกะแอมป์
เมื่อท่านเลือกซื้อระบบคาราโอเกะท่านทราบอย่าวไรว่าชุดคาราโอเกะที่ท่านเลือกเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในเมือดูไปแล้วชุดคาราโอเกะในท้องตลาดมีลักษณะการทำงานที่คล้ายๆกันและเพื่อให้ได้ระบบที่ดีที่สุดและได้คุณภาพเสียงที่ดีทึ่ ก่อนอื่นมาดูกันที่เครื่องเสียงและไมโครโฟนก่อนดีกว่า ไมโครโฟนกับเครื่องขยายเสียงคาราโอเกะต้องแมทซ์กันการเลือกเครื่องเสียงให้แมทซ์กับไมโครโฟนท่านเคยสงสัยไหมว่าทำไมว่าไมโครโฟนที่มีคุณภาพสูงแบบมีสายหรือไร้สายใชักับเครื่องเสียงเครื่องต่างรุ่นต่างยี่ห้อทำไมเสียงไมโครโฟนคุณภาพเสียงออกมาไม่เหมือนกันสาเหตุที่เป็นเช่นนี้อาจเป็นเพราะว่าอินพุทของเครื่องเสียงคาราโอเกะกับเอาท์พุทไมโครโฟนไม่แมทซ์กัน ช่วงไดนามิกของเครื่องขยายเสียงคาราโอเกะไม่สามารถรับระดับเอาท์พุทสูงสุดของไมโครโฟนได้ จะเกิด overload and distort ของสัญญาณเสียง ไม่ว่าท่านจะปรับแต่งเครื่องเสียงอย่างไรก็ตามมันก็ยังไม่ถูกใจเราอยู่ดี
ดังนั้นการเลือกเครื่องเสียงคาราโอเกะ สิ่งแรกทึ่ต้องคำนึงถึง คื่อไมโครโฟน ที่แปลงสัญญาณเสียงมาเป็นสัญญาณไฟฟ้าออกทางเอาท์พุท(แจ็คไมโครโฟน)ต้องมีความไวสอดรับกับความไวทางอินพุทของเครื่องเสียง ไม่ว่าเทคโนโลยีวงจรขยายเสียงจะออกแบบมาเป็นแบบดั้งเดิมหรือใช้เทคโนโลยีใหม่ล้าสุุด(ดิจตอล)ก็จะไม่ให้เสียงที่ดีที่สุดถ้าความไวของเอาท์พุทไมโครโฟนและความไวทางอินพุทของเครื่องเสียงไม่สอดรับกัน
ไมโครโฟนและลำโพงเป็นผลิตภัณฑ์ของขดลวด(วอยซ์คอยล์)มีแหล่งผลิตที่มาแตกต่างกันฉนั้นคุณสมบัติและมาตรฐานจึ่งมีความแตกต่างกันนี้จึงเป็นที่มาของการไม่สอดรับทางอินพุทของเครื่องขยายเสียง ปัญหานี้จะไม่เกิดขึ้นถ้าผู้ออกแบบเอาไมโครโฟนต้นแบบมาออกแบบวงจรพร้อมกับเครื่องเสียงแล้วขายคู่กันเป็นคู่แฟดไปเลย แต่ในความเป็นจริงเรื่องเทคนิคเรือ่งราคาและเรื่องการตลาดคู่แข่งผู้ผลิตจึงตั้งอินพุทไมโครโฟนมาตราฐานกันเองและเป็นสาเหตุที่น่าปวดหัวสำหรับผู้ใช้งานปลายทางต้องมาหาค่าความไวทางเอาท์พุทของไมโครโฟนกันเองเพื่อจะจับคู่กับเครื่องขยายเสียงเครื่องนั้น บางครั้งผู้ผลิตเครื่องเสียงกำหนดความไวทางอินพุทสูงเกินไปจึงก่อให้เกิดไดนามิคที่แคบมาก การออกแบบเครื่องเสียงเหล่านี้ไม่สามารถจักการกับระดับควาดันขนาดใหญ่ได้SPL (sound pressure levels)
เพื่อหลีกเลี่ยง ระดับ SPL เราควร เลือกค่าระดับสัญญาณเอาท์พุทของไมค์ กับอินพุทเครื่องขยายเสียงให้สอดรับกันได้ แต่ในความเป็นจริงแล้ว พฤติกรรมการใช้ไมค์ของนักร้องแต่ละท่านแตกต่างกัน เช่น ตั้งค่าเฉลี่ย SPL ประมาณ 120 เดซิเบลที่มีความแรงของสัญญาณเอาท์พุทไมค์ประมาณ 50mv แตพฤติกรรมนักร้องและนักแสดงบางท่านอาจใช้พลังเสียงจนขีดสุด อาจได้สัญญาณเอาท์พุทไมค์ได้สูงถึง 500mv หมายความว่าไมค์โครโฟนจะต้องทนต่อ SPL 140 dBซึ่งอัตราการทนกำลังเช่นนี้มีไมค์คุณภาพสูงราคาค่อนข้างแพงบางรุ่นสามารถทำได้
คุณสมบัติของเสียงที่ดีนั้นไม่อาจจะสรุปได้โดยง่าย ในแง่ของเทคนิคพื้นฐานที่กล่าวมาทั้งหมดนั้น เป็นเพียงพื้นฐานที่ท่านผู้อ่านควรทราบไว้บ้าง เพื่อจะได้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับเครื่องเสียง แต่ถ้าพิเคราะห์กันถึงวิธีการเลือกซื้อแล้ว เรามักจะจัดให้เครื่องเสียงได้มีโอกาสจับคู่กับปรีแอมป์ แล้วทำงานขับลำโพงจริง ๆ เพื่อฟังผลของคุณภาพเสียง มากกว่าการพิจารณาคุณสมบัติของเครื่องเสียงเพียงเครื่องเดียว